Last updated: 20 ธ.ค. 2565 | 1770 จำนวนผู้เข้าชม |
ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า คีโต หรือ คีโตเจนิค คืออะไร
คีโต แรกเริ่มนั้นเป็นวิธีการรักษาผู้ป่วยในกลุ่มที่มีอาการชัก (Seizure disorders) ตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1920 โดยผู้ที่ทำการรักษาได้สังเกตเห็นว่าผู้ป่วยที่รักษาด้วยวิธีคีโต มักมีภาวะน้ำหนักตัวลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ จึงมีการพัฒนาให้คีโตนั้นกลายมาเป็นวิธีการทานอาหารเพื่อใช้ลดน้ำหนักมาจนถึงปัจจุบัน ถ้าจะคุยกันแบบเข้าใจง่ายที่สุด คีโต ก็คือการเน้นรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง ควบคุมโปรตีนให้น้อยกว่าไขมัน และหลีกเลี่ยงคาร์โบไฮเดรตให้มากที่สุด เพื่อให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะคีโตซิส (ketosis) ซึ่งร่างกายจะเผาผลาญไขมันที่สะสมในร่างกายจนเกิดสารคีโตน สำหรับนำไปใช้เป็นพลังงานแทนคาร์โบไฮเดรตนั่นเอง
แล้วจะเริ่มทานคีโต ต้องทำอย่างไรกันล่ะ?
ส่วนที่สำคัญที่สุดของการทานคีโต คือการคำนวณสารอาหาร เพราะคีโตนั้นเน้นไขมันเป็นหลัก จึงสามารถแบ่งสัดส่วนสารอาหารแต่ละมื้อออกเป็น ไขมัน 75% โปรตีน 20% และคาร์โบไฮเดรต 5% (บางคนเคร่งแบบสุดโต่งอาจจะทำ 0% คาร์บเลยก็มีให้เห็น) ซึ่งก่อนจะไปถึงจุดนั้นเราต้องคำนวณค่า BMR และ TDEE ก่อน จะได้วางแผนการทานอาหารแต่ละมื้อได้อย่างแม่นยำ แต่ไม่ต้องกังวลว่ามันวุ่นวาย เพราะมีทางลัดในการคำนวณค่าต่างๆเพียงกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน คลิ๊กที่นี่ได้เลย
แบบนี้ถ้าเข้าคีโตแล้ว ขนมขบเคี้ยวอร่อยๆก็ต้องอดหมดเลยสิ ?
คำตอบคือก็จำเป็นต้องอด แต่...ก็มีขนมทานเล่นอย่างอื่นที่สามารถทานได้ไม่ต้องกลัวหลุดคีโตและสมควรทานเป็นอย่างยิ่ง เช่น พืชตระกูลถั่ว ถั่วลิสง เมล็ดธัญพืช เมล็ดเจีย เมล็ดแฟกซ์ เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง เมล็ดแตงโม สามารถทานแบบอบไม่ผสมเกลือหรือจะแปรรูปเป็นเมนูแสนอร่อยได้มากมาย สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ในเว็ปไซต์เกี่ยวกับคีโตทั่วไปได้เลยจ้า
16 ส.ค. 2565